End-to-End Encryption (E2EE) ในโอกาสครบรอบ 21 ปีของ Gmail เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2025
Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่สำหรับผู้ใช้ Google Workspace: End-to-End Encryption (E2EE)
ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งอีเมลที่เข้ารหัสแบบสมบูรณ์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
🔹 E2EE คืออะไร และทำงานอย่างไรใน Gmail?
E2EE คือการเข้ารหัสข้อมูลที่ต้นทาง (ผู้ส่ง) และถอดรหัสที่ปลายทาง (ผู้รับ) เท่านั้น ทำให้ไม่มีบุคคลที่สาม (รวมถึง Google) สามารถเข้าถึงเนื้อหาของอีเมลได้
ใน Gmail ฟีเจอร์นี้ทำงานผ่าน Client-Side Encryption (CSE) ซึ่งหมายความว่า
- ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ก่อนส่ง
- การเข้ารหัสจะถูกควบคุมโดยลูกค้าเอง และไม่ถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของ Google
- เฉพาะผู้รับที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเข้ารหัสและอ่านอีเมลได้
ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะสำหรับองค์กรที่มีข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการควบคุมข้อมูล
🔹 วิธีใช้งาน E2EE ใน Gmail
การใช้งาน E2EE ใน Gmail สำหรับผู้ใช้ Google Workspace มีขั้นตอนดังนี้
- ผู้ดูแลระบบ (Admin) ต้องเปิดใช้งานฟีเจอร์ CSE ใน Google Workspace
- เมื่อเปิดใช้งานแล้ว ผู้ใช้สามารถเลือก “เปิดใช้งานการเข้ารหัสฝั่งไคลเอนต์” ขณะเขียนอีเมล
- หากผู้รับเป็นผู้ใช้ Gmail อีเมลจะถูกถอดรหัสโดยอัตโนมัติในกล่องขาเข้า
- หากผู้รับไม่ใช่ผู้ใช้ Gmail จะได้รับคำเชิญให้ดูอีเมลในเวอร์ชัน Gmail ที่จำกัดผ่านบัญชี Google Workspace สำหรับผู้เยี่ยมชม
นอกจากนี้ ผู้ดูแลระบบยังสามารถกำหนดนโยบายให้ผู้รับภายนอกทุกคนต้องใช้เวอร์ชัน Gmail ที่จำกัด
เพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและป้องกันการจัดเก็บอีเมลในอุปกรณ์ของบุคคลที่สาม
🔹 ความสำคัญของ E2EE สำหรับองค์กร
ฟีเจอร์ E2EE ใหม่นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่ต้องการปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับ เช่น ข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลลูกค้า
มีข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น HIPAA หรือ GDPR หรือต้องการควบคุมการเข้ารหัสและการเข้าถึงข้อมูลอย่างเต็มที่
ด้วยการเข้ารหัสแบบฝั่งไคลเอนต์ องค์กรสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะถูกปกป้องอย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
การเปิดตัวฟีเจอร์ E2EE ใน Gmail ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของการสื่อสารทางอีเมล
โดยเฉพาะสำหรับองค์กรที่ต้องการควบคุมข้อมูลอย่างเข้มงวด
แม้ว่าฟีเจอร์นี้จะอยู่ในช่วงเบต้าและเปิดให้ใช้งานเฉพาะผู้ใช้ Google Workspace Enterprise Plus, Education Standard และ Education Plus
ที่มีการเปิดใช้งาน Assured Controls แต่คาดว่า Google จะขยายการใช้งานไปยังผู้ใช้กลุ่มอื่นในอนาคต
