ในสายทำ SEO หนึ่งในโจทย์สำคัญที่ทุกคนพยายามอัพเดทกันอยู่ตลอดคือเรื่องเทคนิคสำหรับดันอันดับเว็บให้ขึ้นบน Google Ranking แต่ก็มีเรื่องพื้นฐานบางอย่างที่ละเลยไปไม่ได้ครับ นั่นคือการทำ Description
ซึ่งในส่วนนี้ไม่ใช่ว่าเขียนให้น่าสนใจหรือเขียนสนุก จะช่วยได้เสมอไป แต่มันต้องตรงตามหลักให้คะแนนของ Google บางอย่างด้วยครับ
มาลองดูว่า เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ Description มีอะไรบ้าง
ข้อบังคับ จำเป็นต้องมี Keyword อยู่ในเนื้อหาเสมอ
เป็นข้อบังคับ อันดับที่หนึ่ง ถ้าไม่มี ก็คือจบกันครับ
แล้ว Keyword จะต้องเป็นแบบไหน คือก่อนอื่นเราต้องกำหนดไว้เลยว่า จะใช้คำไหนเป็น Focus Keyword เช่น สินค้า บริการ หรือ Content ที่เราต้องการทำ ซึ่งตรงนี้เราสามารถวิเคราะห์ได้ผ่านทางเครื่องมือของ Google หรือถ้าเป็นคำเฉพาะใหม่ ๆ เราสามารถกำหนดเองได้เลย
แต่ที่สำคัญคือต้องมีคำเหล่านั้นอยู่ใน Description ด้วยครับ
ต้องมีคำที่ดึงดูดความสนใจ
มีคำค้นหาหลัก Focus Keyword เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นต้องมีการเลือกคำที่จะดึงดูดความสนใจ
ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นรีวิวหนัง ซีรีส์ อาจจะต้องมีคำประเภท Spoil หรือการใช้ตัวเลขเข้าช่วยเช่น
10 เรื่องที่คุณควรทราบเกี่ยวกับ…
5 เรื่องที่ต้องระวัง….
6 ขั้นตอนการลงทะเบียน ชิม ช็อป ใช้…
คำเหล่านี้สามารถทำเป็นหัวข้อ Title เพื่อเรียกความน่าสนใจของเนื้อหา ซึ่งก็สามารถขยายลงมาไว้ใน Description ต่อได้ด้วยครับ
ความยาวของ Description
ตรงนี้สำคัญมาก เพราะถ้าสั้นเกินไปหรือยาวเกินไป การตัดคะแนนของ SEO สำหรับ Google Ranking จะให้ลดลง โดยส่วนตัวผู้เขียนแนะนำอยู่ที่ 150-160 คำ หรือประมาณ 1 บรรทัดครึ่ง หากคำนวณจากหน้ากระดาษ A4 ของ MS Word ครับ
มีคำที่เกี่ยวข้องใน Description
มีคำหลักที่ค้นหาแล้ว ก็ต้องมีคำรองหรือคำที่เกี่ยวข้องด้วย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Description ได้มากขึ้น
ตัวอย่างเช่น เราพูดถึงการค้นหาคำว่า ร้านกาแฟ แต่คำเพียงแค่นี้ไม่เพียงพอ เราต้องมีคำที่เกี่ยวข้อง อาจจะเสริมด้วยคำที่บอก Location สถานที่ หรือจุดเด่นของร้านกาแฟนั้นว่ามีอะไรบ้าง
หรือถ้าเขียนเกี่ยวกับ รีวิวอาหาร ก็ควรต้องใส่เพิ่มเติมถึงจุดเด่นอื่นๆเข้ามาด้วย เช่น 5 อาหารคลีน แนะนำ ส่วนใน Description ก็ควรต้องมีคำว่า ลดน้ำหนัก, ดีท็อกซ์, ปลอดสารพิษ ตามแต่ว่ากลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการสื่อสารด้วยคือใครครับ